นศ.เทคนิคฯ ร้อง ผอ.ทุจริต ! ต่อ ผวจ.

ทนชามชื่นกับการฉ้อฉลและสับปรับไม่ไหว ร่วมกันก่อม๊อบตบเท้าเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อพ่อเมืองเจตนาให้เอาเรื่องถึงที่สุด ถ้าพ้นผิดไม่อยากปะหน้าให้ย้ายหนีภายใน 24 ชั่วโมง

เหตุการณ์ที่ไม่ชอบามาพากลครั้งนี้เปิดเผยขึ้น เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 14 ก.ย. ณ บริเวณหน้าตึกอำนวยการวิทยาลัยเทคนิคนครพนม ได้มีนักศึกษาของวิทยาลัยระดับชั้น ปวส.ทุกแผนก จำนวนประมาณ 400 คน มาชุมนุมากันเพื่อเรียกรร้องขอความเป็นธรรมที่ได้รับผลกระทบจากการบริหารงานของนายธีระวัฒน์ บุญเพ็ง ผอ.วิทยาลัยเทคนิคนครพนม เนื่องจากไม่เอาใจใส่ต่อการเรียนการสอน และสิทธิ์การคุ้มครองบัตรประกันสุขภาพ บัตรประกันอุบัติเหตุ เงินทุนกู้ยืมนักศึกษาที่ล่าช้า ซ้ำร้ายยังร่วมกับพวกทุจริตคอรัปชั่นเงินของผู้ปกครองของนักศึกษา ที่ได้บริจาคเพื่อจัดตั้งสมาคมครูและผู้ปกครอง รวมถึงมูลนิธิที่จัดตั้งเพื่อมอบทุนตลอดจนการจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ในโรงฝึกงานในราคาที่แพงกว่าปกติ อาทิ คอมพิวเตอร์ แต่กลับใช้งานไม่ได้และมีไม่เพียงพอ นอกจากนี้เงินทุนการศึกษาที่ภาครัฐและเอกชน นำมามอบให้กับนักศึกษาที่ยากจนในวันไหว้ครู แต่เมื่อนำมามอบให้นักศึกษากลับนำซองเปล่าไม่มีเงินมามอบให้ คาดว่าจะมีการบังเบียดนำเงินเหล่านี้ไปเข้ากระเป๋าตัวเอง ในช่วงระหว่างการชุมนุมตังแทนกลุ่มนักศึกษากว่า 10 คน ได้สลับกันขึ้นกล่าวปราศรัยผ่านเครื่องขยายเสียงโจมตีการทำงานของนายธีระวัฒน์ ซึ่งมีพฤติกรรมฉ้อฉลหนักไปในทางทุจริตคอรัปชั่นจากโครงการต่างๆในวิทยาลัย เช่น นำเครื่องอินเตอร์เนตและ ทีวี.ไปใช้ส่วนตัว หมกเม็ดเงินประกันสุขภาพ อุบัติเหตุ เงินทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษาที่ล่าช้า และมีการเรียกเก็บเงินค่าบัตรบาร์โค๊ตแพงเกินความาาเป็นจริง ทั้งๆที่เครื่องเสีย รอบๆบริเวณการชุมนุมเริ่มตึงเครียด ซึ่งนักศึกษาต่างโพกผ้าขาวคาดศีรษะ พร้อมชูป้ายผ้าข้อความต่าง ๆ อาทิ "บริหารงานไม่โปร่งใส ทุจริตโกงกิน" - "เราไม่ต้องการ ผอ.คนนี้" - "ครูโกงกินครูไม่เป็นไร แต่ครูโกงกินนักเรียนมันเกินไป"

ในเวลาต่อมาตัวแทนนักศึกษาได้สับเปลี่ยนกันขึ้นปราศรัยเพื่อเรียกร้องให้นายธรวัฒน์ ออกมาชี้แจงถึงข้อเท็จจริง แต่ไม่ยอมออกมา และต่อมากลับมีนางจริยาวัฒน์ กรีเทวี หน.แผนกคหกรรมธุรกิจ และนายวินิจฉัย วัฒนกุล ผช.ผอ.ฝ่ายกิจกรรมนักศึกษา ได้ลงมาจากตึกและพูดจาข่มขู่นักศึกษาที่ชุมนุมว่า "พวกเธอทุกคนจะไม่จบการศึกษาจากที่นี่ไป" จากการพูดจาข่มขู่ดังกล่าวยิ่งทำให้เหตุการณ์ตรึงเครียดมากขึ้น จนกระทั่ง พ.ต.ต.ชูศักดิ์ ถาวรพจน์ สวป.สภ.อ.เมืองนครพนม นำกำลังเจ้าหน้าที่ทั้งในและนอกเครื่องแบบมารักษาความสงบเหตุการณ์ถึงได้คลี่คลายลง

ต่อมานายกรกต เกศกุล ตัวแทนนักศึกษา ปวส.ชั้นปีที่ 2 แผนกช่างยนต์ได้รับช่วงออกปราศรัยและกล่าวว่า "ตนมีหลักฐานการเสียเงินทำบัตรสุขภาพ โดย ผอ.วิทยาลัยแห่งนี้บังคับแบบมัดมือซกให้ทำ ไม่งั้นจะไม่มีสิทธิลงทะเบียนเรียนฯ เมื่อปี 41 เสีย 450 บาท ปี 42 เสีย 400 บาท และปี 43 เสีย 250 บาท ต่อมาตนได้รับอุบัติเหตุถูกรถชนขาหักและพิการ ไปรักษาตามสิทธิ์ที่ รพ.นครพนม แต่หมอไม่ยอมรักษาเนื่องจากอ้างว่า ทางวิทยาลัยฯยังไม่ส่งเรื่องมา จึงต้องเดินทางไปรักษาตัวที่ รพ.ใน จ.อุดรธานี หมดเงินร่วม 1 แสนบาท"

และเวลาต่อมา นายสิทธิพงษ์ ภูมี นักศึกษา ปวส.ชั้นปีที่ 3 แผนกเทคนิคการผลิตกล่าวว่า "ตนเคยทำบัตรประกันสุขภาพมาแล้ว แต่มี ผช.ผอ.คนหนึ่งมาบอกให้ทำอีก พอขึ้นชั้นปีที่ 2 ตนไปขอ ผช.ผอ.คนเดิมว่าไม่ขอทำบัตร เพราะทำไปแล้วไม่ได้รับสิทธิ์ในการรักษา โดยเสียค่าบัตรประกันสุขภาพ 200 บาท และเสียค่าประกันอุบัติเหตุอีก 150 บาท แต่ตนทำแค่บัตรประกันสุขภาพเท่านั้น ก็ยังงงๆ อยู่ว่าได้รับบัตรประกันอุบัติเหตุ ซึ่งคงจะมีการสุ่มและส่งให้นักศึกษาอีก"

และอีกต่อมา นายอานุภาพ ชัยพร ตัวแทนนักศึกษา ปวส.ชั้นปีที่ 1 แผนกช่างยนต์กล่าวว่า "ในวันไหว้ครูที่ผ่านมา จะมีทุนการศึกษาจากประเทศญี่ปุ่นมามอบให้กับนักเรียนที่เรียนดีแต่ยากจนคนละ 1,000 บาท แล้วนำมามอบทุนให้ตนและเพื่อนคนดื่นๆ คนละ 1,000 บาท เป็นซองเปล่าไม่บรรจุเงินใส่ซองแม้แต่บาทเดียว และต่อมาก็มีทุนการศึกษาจากบริษัท ตรีเพชร อีซูซุ จำกัด มามอบอีก แต่พวกคนได้รับเงินซองละ 1 บาท ก็ไม่รู้ว่ากล้านำมามอบให้ได้อย่างไร และนอกจากนั้นผู้บริหารวิทยาลัยฯคนนี้ แทนที่จะนำอินเตอร์เนตมาให้นักศึกษาได้ค้นคว้าหาความรู้ กลับนำไปใช้ส่วนตัวเสมือนปกปิดหูตาที่จะไม่ให้นักศึกษาทั้ง 5 พันคน ได้ฉลาดรู้ทันโลก จึงอยากเรียกร้องให้ย้าย ผอ.ไปภายใน 24 ชั่วโมง"

จากนั้นในเวลา 10.30 น. กลุ่มผู้ชุมนุมทั้งหมดได้เดินทางไปที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดนครพนม และยังปราศรัยโจมตีการบริหารงานของนายธีระวัฒน์อีกครั้ง พร้อมกับแจกจ่ายใบปลิวโจมตีการกระทำของครูอาจารย์ชาวเยอรมันที่สอนภาษาอังกฤษบางคน ที่ดุด่านักศึกษาต่างๆ นาๆ ก่อนที่จะตบหน้าและทำร้ายร่างกายนักศึกษาผู้หญิง รวมถึงพฤติกรรมโกงกินของนายธีรวัฒน์ จนผู้หลักผู้ใหญ่บ้านเมืองจากกระทรวง กรม และ สตง. ไม่กล้ามาตรวจสอบ

และต่อมาในช่วงหนึ่งของการชุมนุมได้มี ด.ต.สักกัด สภ.อ.เมืองนครพนมคนหนึ่ง ซึ่งมีตำแหน่งเป็นคณะกรรมการผู้ปกครองเด็กในวิทยาลัยเทคนิคนครพนม กล่าวว่า ตั้งแต่ ผอ.คนนี้ย้ายมาไม่เคยนำเงินประกันไปเข้ากลุ่มของผู้ที่จะได้รับประกัน เมื่อนักศึกษาเกิดอุบัติเหตุ ทางโรงพยาบาลเรียกเอาเงินค่าประกันคนละ 100 บาท ได้แต่เพียงใบเสร็จแต่ไม่ยอมนำเงินไปเข้ากองทุน นอกจากนี้ ผอ.คนดังกล่าวยังยักยอกเงินบริจาคเพื่อจัดตั้งสมาคมครูและผู้ปกครองและมูลนิธิจำนวนกว่า 1 ล้านบาท ซึ่งนายเดชา ศิริรัตน์ อดีต ผอ.วิทยาลัยเทคนิคฯคนก่อน ยังได้ฟ้องร้องนายธีระวัฒน์ บุญเพ็ง ซึ่งปัจจุบันคดียังอยู่ในการพิจารณาของศาลฯ

ต่อมาตัวแทนกลุ่มนักศึกษา 8 คน ได้นำหนังสือร้องเรียนพร้อมเอกสารการทุจริตไปยื่น เพื่อขอความเป็นธรรมและขอให้ดำเนินการตรวจสอบการทุจริตในวิทยาลัยฯต่อ นายก้องเกียรติ อัครประเสริฐกุล รอง ผวจ.นครพนม และนายวิเศษ ภูมิชัย ศึกษาธิการ จ.นครพนม ผ่านถึงผู้ว่าฯนครพนม เนื่องจากติดราชการ

ส่วนการเจรจาครั้งนี้ไม่เป็นที่พอใจของนักศึกษา ตัวแทนนักศึกษาทั้ง 8 คน จังได้กลับออกมาพบกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่บริเวณด้านหน้าศาลากลางฯ และในที่สุดนักศึกษาทั้งหมดก็ตัดสินใจเดินทางต่อไปยังบ้านพักผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เพื่อขอความเป็นธรรม เมื่อเวลา 16.30 น.ของวันเดียวกันแต่ไม่พบ และได้สอบถามคนในจวนได้ความว่าประมาณ 20.00 น.เศษ ผวจ.จะกลับมาที่จวน กลุ่มตัวแทนนักศึกษาทั้ง 8 คน จังได้รอคอยจนถึงเวลา 20.00 น.เศษ นายศักดิ์ เกียรติก้อง ผวจ.ฯ ถึงกลับมา และได้พลกับตัวแทนนักศึกษาทั้ง 8 คน พร้อมเจรจาถึงปัญหาการร้องเรียนในครั้งนี้ ผลสรุป ผวจ.รับปากจะดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้อย่างเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ผิดก็ว่าไปตามผิด ถูกก็ว่าไปตามถูกและขอเวลาอีกไม่เกิน 10 วันจะให้คำตอบ ซึ่งนักศึกษาทั้ง 8 คน ก็พอใจจึงได้กล่าวลากลับ

กลับหน้า1